วันจันทร์ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ศึกษาคุณลักษณะที่พึงประสงค์ของพระสังฆาธิการตามทัศนะของผู้นำชุมชนในจังหวัดแพร่


ชื่อรายงานการวิจัย: ศึกษาคุณลักษณะที่พึงประสงค์ของพระสังฆาธิการตามทัศนะ ของผู้นำชุมชนในจังหวัดแพร่
ผู้วิจัย: นางสาวอรอนงค์ วูวงศ์ พระใบฎีกาอุดร อุตฺตรเมธี นางฉวีวรรณ สุวรรณาภา นายเกรียงศักดิ์ ฟองคำ
ส่วนงาน: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตแพร่
ปีงบประมาณ: 2547
ทุนอุดหนุนการวิจัย: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

บทคัดย่อ

การวิจัยในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาคุณลักษณะที่พึงประสงค์ของพระสังฆาธิการตามทัศนะของผู้นำชุมชนในจังหวัดแพร่ 3 ด้าน คือ ด้านการศึกษา ด้านภาวะผู้นำ และด้านการบริหารงาน

กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยในครั้งนี้ คือ ผู้นำชุมชนที่ดำรงตำแหน่ง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลจังหวัดแพร่ จำนวน 62 คน ผู้นำชุมชนที่ดำรงตำแหน่งไวยาวัจกร จำนวน 290 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถาม แบ่งเป็น 3 ตอน คือ ตอนที่ 1 สอบถามสถานภาพทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม ตอนที่ 2 แบบสอบถามข้อมูลคุณลักษณะของพระสังฆาธิการตามทัศนะของผู้นำชุมชนในจังหวัดแพร่ 3 ด้าน คือ ด้านการศึกษา ด้านภาวะผู้นำ และด้านการบริหารงาน ตอนที่ 3 ข้อเสนอแนะทั่วไป แบบปลายเปิด พร้อมสอบถามเพิ่มเติม

วิเคราะห์ข้อมูลโดยหาค่าร้อยละ(Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) และทดสอบค่า T-test โดยใช้วิธี Independent t-test

ผลการวิจัย พบว่า

1. ผลการศึกษาคุณลักษณะที่พึงประสงค์ของพระสังฆาธิการตามทัศนะของผู้นำชุมชนในจังหวัดแพร่ 3 ด้าน พบว่า

ด้านการศึกษา ผู้นำชุมชนในจังหวัดแพร่ เห็นด้วยกับคุณลักษณะของพระสงฆ์ที่จะมาดำรงตำแหน่งพระสังฆาธิการควรมีความรู้ทางด้านประเพณีท้องถิ่นและศิลปวัฒนธรรม มีความรู้เกี่ยวกับศาสนา ศิลปและวัฒนธรรม ได้รับการฝึกอบรมพระสังฆาธิการ มีความรู้และทักษะในการใช้ภาษาไทย มีความรู้ ความเข้าใจและประสบการณ์เรื่องการจัดการบำรุงรักษาสิ่งแวดล้อมโดยใช้หลักธรรม มีความรู้เกี่ยวกับอาชีพในชุมชนและการดำรงชีวิตอย่างมีความสุข มีประสบการณ์ทางการบริหารอย่างน้อย 5 ปี และมีความรู้เกี่ยวกับหลักสูตรทั้งทางธรรมและทางโลก มีวุฒิการศึกษา นักธรรมเอก และมีวุฒิการศึกษาด้านสามัญมัธยมศึกษา ซึ่งเรียงจากความคิดเห็นของผู้นำจากมากลงมาตามลำดับ

ด้านภาวะผู้นำ ผู้นำชุมชนในจังหวัดแพร่ เห็นด้วยกับคุณลักษณะของพระสงฆ์ที่จะมาดำรงตำแหน่งพระสังฆาธิการควรมีความซื่อสัตย์ รักเกียรติยศ ชื่อเสียงของตนเองและองค์การ มีความเอื้อเฟื้อและช่วยเหลือผู้อื่น มีความขยันหมั่นเพียร อดทน ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี มีอารมณ์มั่นคงและควบคุมตนเองได้ มีความเป็นกันเองไม่ถือตัว ไม่แบ่งชั้นวรรณะ และมีวาจาสุภาพเรียบร้อยและอ่อนโยน ซึ่งเรียงจากความคิดเห็นของผู้นำจากมากลงมาตามลำดับ

ด้านการบริหาร ผู้นำชุมชนในจังหวัดแพร่ เห็นด้วยกับคุณลักษณะของพระสงฆ์ที่จะมาดำรงตำแหน่งพระสังฆาธิการควรมีความจริงใจต่อผู้ใต้บังคับบัญชา สนใจและอุทิศเวลาให้แก่ เจ้าหน้าที ที่รับผิดชอบ ตัดสินปัญหาด้วยความยุติธรรม ปกครองผู้ใต้บังคับบัญชาด้วยหลัก ทศพิธราชธรรม มีวิสัยทัศน์กว้างไกล เป็นผู้มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์การทำงานต่าง ๆ ให้ก้าวหน้าอยู่เสมอ และยอมรับฟังความคิดเห็นของอื่น ซึ่งเรียงจากความคิดเห็นของผู้นำจากมากลงมา ตามลำดับ

2. ผลการเปรียบเทียบคุณลักษณะที่พึงประสงค์ของพระสังฆาธิการตามทัศนะของผู้นำชุมชนในจังหวัดแพร่ ของผู้ตอบแบบสอบถามที่มีสถานภาพแตกต่างกันในแต่ละด้าน พบว่า มีลักษณะด้านการศึกษา ด้านภาวะผู้นำ และด้านการบริหารงาน ไม่แตกต่างกัน


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น